Support
www.thaibizsolutions.com
095-979-9890
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

กฏหมายนิรโทษกรรม ภาษาอังกฤษ

piboon11@yahoo.com | 09-11-2556 | เปิดดู 4680 | ความคิดเห็น 0

มาเรียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันกันแบบเนื้อๆ เน้นๆ กันครับ

เวลาเราจะแปลหรือพูดภาษาอังกฤษเนี่ย ขอย้ำว่า (ที่ผ่านมาผมก็ย้ำมาหลายครั้งแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ) เราไม่ได้แปลแบบเอาศัพท์เป็นตัวๆ มาวางเรียงต่อๆกัน ดังนั้น วิธีการที่คนไทยเราเรียนภาษาอังกฤษแบบสักแต่ท่องศัพท์อย่างเดียว นั่นจึงไม่ถูก ถ้าเราทำแบบนั้น มันจะเป็นประโยชน์น้อยเหลือเกิน เพราะว่าเราจะนำมันมาใช้พูดหรือเขียนไม่เป็น คุณว่ามั้ยครับ ... เราควรต้องสอนให้เด็กไทยหรือคนไทยโดยทั่วไปรู้จัก “วิธีการคิดแบบฝรั่ง” และนี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า “Grammar” ... ลองมาฝึกกันเลยนะครับ (ถ้าใครอยากนำไปใช้ ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ) เช่น ประโยคหนึ่งที่กำลังฮิตมากตอนนี้:

1.)          พวกเราคนไทยไม่ยอมรับ (หรือไม่เห็นด้วย หรือไม่ต้องการ หรือไม่เอา) กฏหมายนิรโทษกรรม

กฏหมายนิรโทษกรรม เขาเรียกว่า “Amnesty Bill” เวลาจะใช้ต้องมี “the” ด้วย เพราะเรารู้ต้องตรงกันว่าเป็นกฏหมายอันไหน ดังนั้น เราจึงต้องพูดว่า:

We, Thai people, do not agree with the Amnesty Bill. หรือ

We, Thai people, disagree with the Amnesty Bill. หรือ

We, Thai people, do not want the Amnesty Bill. (แบบนี้ใช้คำง่ายๆ เลยก็ได้)

 

2.)          ก่อนอื่น ขอผมชี้แจงจุดยืนของผมก่อนนะครับ

First of all, let me clarify my standpoint.

 

3.)          ฉันไม่ได้เป็นพวกเสื้อแดง และฉันก็ไม่ได้เป็นพวกเสื้อเหลือง

I am not a Red-Shirt supporter.  Neither am I a Yellow-Shirt supporter.

 

4.)          ฉันเป็นแค่คนไทยที่รักประเทศไทย รักคนไทยทุกคน และรักโลกนี้

I am just a Thai person who loves his own country, (who loves) all the Thai people and (who loves) this planet.

 

5.)          คนเห็นแก่ตัวคือคนที่คิดแต่จะทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง

Selfish people are people who do things only for their own benefit and for the benefit of their groups of friends.

 

6.)          ลองถามตัวเองดูซิว่า คุณกำลังทำเพื่อส่วนรวมหรือทำเพื่อตัวเองกันแน่

Ask yourself if you are really doing this for the community (or for your own benefit). (ใช้ yourself หรือ yourselves ก็ได้ครับ แล้วแต่ว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์)

 

7.)          มีคนถามผมว่า ทำไมผมถึงต้องมาห่วง(หรือแคร์)เรื่องการเมืองด้วย

Somebody asked me why I have to care about politics.

(เวลาใช้คำว่า “care” ต้องระวังนะครับ เพราะเวลาพวกเราคนไทยใช้คำว่า “care” เนี่ย เรามักจะพูดว่า เช่น “ฉันแคร์เธอนะ” แล้วหลายคนชอบแปลผิดเป็นว่า “I care you.” ... ที่ถูก คุณต้องพูดว่า “I care about you.”

 

8.)          ผมตอบว่า “ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องการเมือง แต่ฉันห่วงประเทศของเรา และห่วงคนไทยทุกคนต่างหากล่ะ”

I replied, “I don’t care about politics but I care about our country and all the Thai people.”

 

9.)          อันที่จริง นอกจากเราควรรักคนไทยด้วยกันและรักประเทศไทยแล้ว เราก็ควรรักโลก และรักเพื่อนร่วมโลกที่ต่างเชื้อชาติ-ต่างศาสนาด้วยไม่ใช่หรือ?

Actually, not only should we love all the Thai people and our country, (but) we should also love the Earth and people of different races and different religions, shouldn’t we?

 

10.)       เมื่อคุณได้มีโอกาสอยู่ในคณะรัฐบาลแล้ว ทำไมคุณไม่ใช้เวลาอันมีค่าของคุณเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ลำบากยากไร้ก่อนเล่า เพราะประชาชนเหล่านั้นยังรอความช่วยเหลืออีกมากมาย

When you have (got) a chance to be in the Cabinet, why don’t you make use of your valuable time by helping troubled people or people who are suffering?

การเขียนคำว่า “คณะรัฐบาล” เป็นภาษาอังกฤษเนี่ย ฝรั่งเขาจะสะกดคำว่า “Cabinet” ด้วยตัว “C ใหญ่ นะครับ

 

11.)       ทำไมคุณถึงได้มัวแต่มาเสียเวลาเพื่อคนๆเดียวอยู่นานมากแล้ว เมื่อไหร่มันถึงจะจบเสียที

(ต้องใช้ Present Perfect Continuous Tense นะครับ)

Why have you been wasting a great deal of time only for one single person? When is it going to be finished?

 

12.)       ถ้าคุณกำลังแสดงตัวอย่างโจ่งแจ้งและอย่างหน้าไม่อายว่า คุณกำลังใช้เวทีการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของพวกเดียวกันเอง นั่นก็แปลว่าคุณกำลังประกาศให้โลกรู้ว่าคุณไม่ได้คิดถึงส่วนรวมเลย

If you are using this opportunity just for your own benefit obviously and shamelessly, that means you are showing the world that you’re not doing it for the community at all.

 

13.)       อนาคตของประเทศไทย (รวมถึงอนาคตของโลกด้วย) อยู่ในมือเราทุกคน

Thailand’s future (as well as the world’s future) is in the hands of every one of us.

(คำว่า “every one” ในที่นี้ เราอย่าเขียนติดกันนะครับ เพราะเราไม่ได้ใช้มันในความหมายว่า “ทุกคน”)

 

14.)       คุณทำอะไรไป คุณก็จะได้รับผลกรรมของการกระทำนั้น

You will have to pay for what you have done.

 

15.)       มันยากนักหรือ กับการที่จะบริหารประเทศแล้วคิดถึงคนส่วนใหญ่จริงๆ โดยไม่ใช่ว่าปากพูดอย่าง แล้วแอบทำอีกอย่าง

Is it really that difficult to administer our country’s affairs by focusing on the community? Not that you’re saying one thing in public and doing another thing behind our back.

 

16.)       คุณจงอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ รวมทั้งอย่าเชื่อผมด้วย แต่จงใช้วิจารณญาณของตัวคุณเอง

Don’t believe anyone too easily. And don’t believe me too easily, either. But, you shall use your own consideration and judgment.

 

ความคิดเห็น

วันที่: Thu Jul 04 23:34:47 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0